วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เรื่องทั่วไปของประเทศไทย


เรื่องทั่วไปของประเทศไทย
ชื่อทั่วไป : ประเทศไทย, เมืองไทย, ไทย (Thailand)
ชื่ออย่างเป็นทางการ
ภาษาไทย : ราชอาณาจักรไทย
ชื่ออย่างเป็นทางการภาษาอังกฤษ : The Kingdom of Thailand
พระประมุข : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
หน่วยเงิน : บาท (THB)
สัตว์ประจำชาติ : ช้าง

ดอกไม้ประจำชาติ : ดอกราชพฤกษ์ หรือดอกคูน (อีสาน) หรือ ดอกลมแล้ง (เหนือ)


ธงชาติ : เป็นธง สี 5 แถบ โดยมีสีแดงอยู่แถบที่ 1 และแถบที่ 5 มีสีขาวอยู่แถบที่ 2 และแถบที่ 4 และมีสีน้ำเงินอยู่แถบที่ 3


ลักษณะทางภูมิศาสตร์
ทวีป : เอเชีย
อนุทวีป : เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พิกัดที่ตั้ง :  - ทิศเหนือ จรดเส้นรุ้ง 20 องศา 25 ลิบดา 30 ฟิลิบดา เหนือ
                   - ทิศใต้ จรดเส้นรุ้ง 5 องศา 37 ลิบดา
                   - ทิศตะวันออก จรดเส้นแวง 105 องศา 37 ลิบดา 30 พิลิบดา
                   - ทิศตะวันตก จรดเส้นแวง 97 องศา 22 ลิบดา ตะวันออก
พื้นที่ : ประเทศไทยมีพื้นที่ 513,115 
ตารางกิโลเมตร (198,115 ตารางไมล์) หรือ 320 ล้านไร่ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 50 ของโลก อันดับ 12 ของทวีปเอเชีย และอันดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากประเทศอินโดนีเซียและประเทศพม่า
พรมแดน : - ทิศเหนือ ติดกับประเทศพม่า และ สปป.
ลาว จุดสูงสุดอยู่ที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
                  - ทิศใต้ ติดกับ
ประเทศมาเลเซียและทะเลอ่าวไทย จุดต่ำสุดอยู่ที่ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
                  - ทิศตะวันออก ติดกับ
ประเทศกัมพูชาและ สปป.ลาว จุดตะวันออกสุดอยู่ที่ อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี
                  - ทิศตะวันตก ติดกับประเทศพม่าและทะเลอันดามัน จุดตะวันตกสุดอยู่ที่ อำเภอแม่สะเรียง 
จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ลักษณะภูมิศาสตร์แยกตามภาค

ลักษณะภูมิศาสตร์แยกตามภาค
ภาคเหนือ เป็นพื้นที่สูง มียอดเขาสูงสลับซับซ้อนมากมาย มีเทือกเขาสำคัญคือเทือกเขาถนนธงชัย ซึ่งยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยคือดอยอินทนนท์ (สูง 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเล) อยู่บนเทือกเขานี้ โดยตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือยังเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน (แม่น้ำทั้ง 4 สายนี้รวมกันเกิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา) แม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำสาย และแม่น้ำเมย เป็นต้น นอกจากนี้ภาคเหนือยังเป็นพื้นที่ป่าไม้ที่สำคัญของไทยด้วย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือที่คนไทยนิยมเรียกสั้นๆว่าภาคอีสาน มีลักษณะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่สูงหรือที่ราบสูง เรียกว่าที่ราบสูงโคราช มีภูเขาสูงอยู่ทั่วไป ภาคอีสานเป็นพื้นที่ที่แห้งแล้งที่สุดของไทย ดินไม่ค่อยเหมาะสมต่อการเพาะปลูกมากนัก แต่กลับเป็นพื้นที่สามารถปลูกข้าวพันธุ์ดีที่สุดของไทย (ข้าวหอมมะลิ) ได้ผลผลิตดีที่สุด แม่น้ำสายสำคัญของภาคอีสานคือแม่น้ำมูล แม่น้ำชี และแม่น้ำโขง
ภาคกลาง เป็นที่ราบลุ่มกว้างใหญ่ เรียกว่าพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เป็นแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญที่สุดของประเทศ และเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกจากแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วยังมีแม่น้ำป่าสัก (หรือแม่น้ำท่าจีน) เป็นแม่น้ำสายรองอีกด้วย ทำให้ภาคกลางมักไม่ประสบภาวะน้ำแล้ง



ภาคใต้ มีพื้นที่เป็นทิวเขาสูงสลับที่ราบลุ่มและชายหาดทะเล เป็นแหล่งปลูกยางพาราที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยหมู่เกาะที่สวยงามทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน นอกจากอาชีพปลูกยางพาราและอาชีพบริการด้านการท่องเที่ยวแล้ว ประชากรในภาคใต้ยังประกอบอาชีพประมงและเหมืองแร่ด้วย
ภาคตะวันออก พื้นที่ของภาคตะวันออกเป็นพื้นที่ลักษณะผสมผสาน กล่าวคือทางฝั่งตะวันออกของภาคเป็นเทือกเขาสูง ซึ่งเป็นเส้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา ตอนกลางของภาคเป็นที่ราบซึ่งเหมาะสมต่อการเพาะปลูก ผลผลิตหลักของพื้นที่ส่วนนี้คือผลไม้ เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุดและมะม่วง เป็นต้น ส่วนทางฝั่งตะวันตกเป็นพื้นที่ชายทะเลที่สวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เช่น พัทยา บางแสน สัตหีบ หาดแม่รำพึง หาดบ้านเพ และแหลมแม่พิมพ์เป็นต้น
ภาคตะวันตก พื้นที่ของภาคตะวันตกจะมีพื้นที่ 3 ลักษณะผสมกันกล่าวคือ ด้านตะวันตกที่ติดกับประเทศพม่าจะเป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นป่าไม้ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ เป็นทั้งป่าต้นน้ำและแหล่งอุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ เช่น อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตอนกลางของภาคเป็นที่ราบลุ่มสามารถเพาะปลูกได้ผลดี ส่วนด้านตะวันออกเป็นส่วนที่ติดกับทะเล จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและมีชื่อเสียง เช่น หัวหินและชะอำ เป็นต้น นอกจากนี้ประชากรทางฝั่งตะวันออกบางส่วนยังประกอบอาชีพประมงด้วย



แหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย

แหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย




ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวยแหล่งท่องเที่ยวและมีความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก แหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้ดังนี้
- แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เช่น อุทยานประวัติศาสตร์ 
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์วิถีชีวิต อนุเสาวรีย์บุคคลสำคัญ เมืองหรือแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ และปราสาทหิน เป็นต้น
- แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น ภูเขา (ดอย/ภู) น้ำตก ถ้ำ เหว หน้าผา จุดชมวิว อุทยานแห่งชาติ 
วนอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าสงวนแห่งชาติ ทะเลสาบและบึงธรรมชาติ เป็นต้น
- แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล เช่น เกาะและหมู่เกาะต่างๆ ชายหาด แหลมและอ่าวต่างๆ เป็นต้น
- แหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาและความเชื่อ เช่น วัด โบสถ์ มัสยิด เจดีย์และพระธาตุ เป็นต้น
- แหล่งท่องเที่ยวสมัยใหม่ เช่น ห้างสรรพสินค้า สวนน้ำ สวนนก สวนสัตว์ ตลาดน้ำ ตลาดนัด สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ฟาร์มสัตว์ประเทศต่างๆ รีสอร์ท สถานตากอากาศ และสวนสาธารณะ เป็นต้น